1/20/2553

เคล็ดลับ แก้รักแร้ดำ

บางคนดูแลใต้วงแขนอย่างดี ก็ยังมีรักแร้ดำคล้ำ แต่บางคนไม่ต้องดูแลอะไรเลยก็อาจมีใต้วงแขนขาวได้ ทั้งนี้เพราะผู้หญิงแต่ละคนมีผิวที่ตอบสนองต่อปัจจัยกระตุ้นไม่เท่ากัน

สาเหตุที่ทำให้รักแร้ดำแบ่งเป็น ปัจจัยภายในและภายนอก โดยปัจจัยภายในข้อแรกเป็นเรื่องของพันธุกรรม เป็นผิวประเภทมีลักษณะอักเสบแพ้ง่ายหรือแห้งง่าย สองคือ เป็นคนรูปร่างอวบอ้วน สังเกตว่าผิวหนังบริเวณบริเวณที่เป็นข้อพับ เช่น ข้อศอก หรือขาหนีบ มักมีสีคล้ำกว่าบริเวณอื่น เพราะมีการเสียดสีกันตลอดเวลา ดังนั้นยิ่งรูปร่างอ้วนเท่าไร โอกาสที่รักแร้จะดำคล้ำยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะเป็นบริเวณที่อับชื้นและมีการเสียดสี ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองตามมา

ปัจจัยภายในข้อสุดท้ายคือ มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักติดเชื้อได้ง่าย ผิวหนังอักเสบง่าย และลุกลามไปถึงใต้วงแขน ทำให้มีสีดำคล้ำผิวหนาเป็นรอยย่นเหมือนกำมะหยี่

ปัจจัยภายนอกคือ เกิดจากสิ่งกระตุ้น เช่น เครื่องสำอางหรือโรลออนที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือส่วนผสมที่ทำให้แพ้ง่าย หรือน้ำหอม ของพวกนี้ใช้บ่อยๆก็สามารถทำให้รักแร้ดำง่าย เนื่องจากเป็นการตอบสนองของร่างกาย

ปัจจัยภายนอกอีกปัจจัยหนึ่ง คือ การถอนขนรักแร้ บางคนถอนแล้วไม่เป็นไรแต่บางคนถอนแล้วรูขุมขนอุดตัน เกิดการอักเสบ บวมแดง และมีสีคล้ำภายหลัง

การแก้ไขทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดรักแร้ดำ เช่น ลดน้ำหนัก หันไปใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่มีกรด (สังเกตว่าโดยมากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมมักทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย) ซึ่งปัจจุบันมีวางขายตามร้านขายยาทั่วไป โดยราคาอาจสูงกว่าปกติเล็กน้อย หรือเปลี่ยนไปใช้วิธีกำจัดขนใต้วงแขนวิธีอื่น เช่น การแว็กซ์ หรือยิงเลเซอร์ซึ่งเป็นการกำจัดขนถาวร

การใช้เลเซอร์เป็นการยิงเลเซอร์กำจัดขนทีละจุด ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิว ช่วยปรับจากสีเข้มให้จางลงได้ เป็นการแก้ปัญหาจากภายในชั้นผิวหนัง ปัจจุบันถือเป็นวิธีที่แพร่หลาย ไม่เป็นอันตรายและแทบไม่มีผลข้างเคียง อาจรู้สึกเจ็บในระยะแรกที่ทำเท่านั้น แต่ข้อเสียคือค่าใช้จ่ายที่สูง และไม่รับประกันผล 100% อาจได้ผลสำหรับบางคนและไม่ได้ผลกับบางคน

สำหรับคนที่ชอบวิธีธรรมชาติ อันดับแรกให้หลีกเลี่ยงการใช้สารส้มเพราะมีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ของบริเวณเนื้ออ่อนของรักแร้ทำให้รักแร้ดำ แม้ช่วยดับกลิ่นได้ก็ตาม จากนั้นเวลาอาบน้ำ ระหว่างฟอกสบู่ใหใช้ที่ขัดผิวขัดบริเวณรักแร้เบาๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวหมองคล้ำออกไปได้บ้าง อาจใช้นมผสมน้ำผึ้ง หรือนมผสมน้ำมะขามเปียกขัดเบาๆ แล้วล้างด้วยสบู่ให้สะอาด หลังอาบน้ำและเช็ดตัวแห้งแล้ว แนะนำให้ใช้ครีมประเภทไวเทนนิ่ง (สำหรับทาหน้า) ทาบริเวณใต้วงแขนและผึ่งให้แห้ง สุดท้ายทาแป้งฝุ่นทับเพื่อลดการเสียดสี ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้รักแร้ขาวขึ้นได้ แต่ต้องใช้เวลานานเป็นเดือนหรือครึ่งปี จึงเห็นผล

สำหรับผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนที่โฆษณาว่าช่วยให้รักแร้ขาวขึ้นได้จริงหรือไม่นั้น ขอบตอบว่าเป็นไปได้ หากผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนผสมของไวเทนนิ่ง และมีการใส่ผงแป้งลดการเสียดสีใต้วงแขนรวมทั้งป้องกันยูวีได้ แต่ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล คือตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นแท่งครีมมากกว่าลูกกลิ้ง เพราะมีการเสียดสีน้อยกว่า


ข้อมูลจาก นิตยสารสุขภาพดี

1 ความคิดเห็น: