3/07/2554

กินผลไม้อย่างไร ถึงจะดีต่อสุขภาพ

ผลไม้มีมากมาย แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าจะดีต่อสุขภาพของเรา เรามาดูรายละเอียดกันค่ะ

ผลไม้กับผู้ที่น้ำหนักเกิน

สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือผู้ที่อ้วน มีความจำเป็นต้องลดน้ำหนักลงหรือไม่ต้องการให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ก็ต้องเลือกชนิดของอาหารรวมทั้งปริมาณให้พอกับกิจกรรมที่ใช้พลังงานไป เพื่อที่จะได้ไม่เหลือสำหรับร่างกายสะสมไว้ในรูปของไขมันในร่างกาย ผลไม้ก็เช่นเดียวกัน เพราะผลไม้จะมีคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล ถ้าเป็นผลไม้ที่มีรสหวานมาก ก้จะมีน้ำตาลซึ่งจะให้พลังงานมากกว่าผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยกว่า เช่น เงาะ ทุเรียน ลำไย องุ่น สับปะรด ผลไม้ที่มีรสหวานน้อย เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล แก้วมังกร และถ้าเป็นผลไม้ที่นำไปคั้น ซึ่งต้องใช้ผลไม้ปริมาณมากและส่วนใหญ่จะดื่มได้ในปริมาณที่มากๆ ก็อาจจะทำให้เราได้รับพลังงานมากเกินไปด้วย ดังนั้นผู้ที่มีน้ำหนักเกินควรจะกินผลไม้รูปของผลไม้สดที่มีใยอาหารอยู่จะดีกว่ากินในรูปของผลไม้ที่นำไปคั้น

ผลไม้กับผู้ป่วยเบาหวาน

สำหรับผู้ป่วยเบาหวานมักจะได้รับคำแนะนำว่าให้กินผลไม้ที่รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล แก้วมังกร ส้มโอ จะดีกว่า และคำแนะนำเกี่ยวกับค่าดัชนีน้ำตาลซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องเลือกกินผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำด้วยก็จะเป็นการดี อย่างไรก็ตามข้อมูลค่าดัชนีน้ำตาลของผลไม้ก็ยังมีไม่มาก บางคนสงสัยว่าผลไม้รสไม่หวานนั้นค่าดัชนีน้ำตาลควรจะต่ำด้วย เช่น ส้มโอขาวน้ำผึ้งมีค่าดัชนีน้ำตาล เท่ากับ 59 ซึ่งมีค่ามากกว่ามะม่วงอกร่องสุก และชมพูทับทิมจันทร์ ซึ่งมีค่าดัชนน้ำตาลเท่ากับ 51 และ 50 ตามลำดับ ซึ่งเป็นเพราะน้ำตาลในผลไม้มีทั้งน้ำตาลซูโครส น้ำตาลกลูโครส และน้ำตาลฟรุคโตส ซึ่งผลไม้บางชนิดถึงแม้รสจะไม่หวานจัดแต่น้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบคือน้ำตาลกลูโคส เป็นส่วนใหญ่ก็จะมีผลต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน

นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรกินผลไม้ในรูปแบบของผลไม้สดที่เป็นชิ้นๆที่มีทั้งใยอาหารต่างๆจะดีกว่า เพื่อที่ร่างกายจะได้ค่อยๆย่อยแล้วดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ร่างกาย ทำให้อิ่มท้องได้นาน และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น

ผลไม้กับผู้ป่วยโรคไต

ในผู้ป่วยโรคไตอาจจะต้องมีการจำกัดปริมาณน้ำที่จะได้รับในแต่ละวัน เพราะเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในผลไม้จะมีน้ำค่อนข้างมากกว่าอาหารชนิดอื่น และผลไม้ต่างชนิดกันก็จะมีปริมาณน้ำแตกต่างกันด้วย เช่น ชมพู่ จะมีปริมาณน้ำมากกว่าแตงโมจินตหรา และมากกว่าสตรอว์เบอร์รี่ ส่วนผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ร่างกายไม่สามารถขับโพแทสเซี่ยมสูง โดยเฉพาะแก้วมังกร ส้ม ทุเรียน มะละกอ กล้วย ดังนั้นในกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องเลือกชนิด และปริมาณของผลไม้ให้ดีก่อนรับประทาน

อ้างอิงข้อมูลจาก คุณสุจิตต์ สาลีพันธ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น