3/08/2554

สูตรสร้างสุข



สูตรสร้างสุข

ได้มีการวิจัยพบว่า พันธุกรรมมีส่วนประมาณร้อยละ 50 ของผลลัพธ์ความสุข ในขณะที่สภาพความเป็นอยู่ของชีวิตมีผลต่อความสุขเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ส่วนอีกร้อยละ 40 ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ตัวคุณเองเป็นคนทำให้มีความสุข แต่คนส่วนใหญ่ในโลกใบนี้มักคิดว่า การมีเงินมากมายในบัญชีฝากธนาคาร มีบ้านหลังใหญ่ หรืองานที่ดี จะทำให้ชีวิตสดใสขึ้น แม้สิ่งเหล่านี้จะให้ความรู้สึกพึงพอใจชั่วครู่ชั่วยาม แต่แล้วความสุขก็จะค่อยๆจางหายไป ฉันตื่นเต้นมากตอนที่ได้รถยนต์ที่อยากจะได้มานาน แต่พอสองเดือนผ่านไป ฉันก็รู้สึกเฉยๆ การขับรถใหม่กลายเป็นความจำเจในที่สุด

ในงานวิจัยของ ซอนยา ลูโบเมียร์สกี นักจิตวิทยาและผู้เขียน "อย่างไรเรียกว่าสุข" วิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้ชีวิตแบบที่เราต้องการ ค้นพบว่า กญแจที่ไขความสุขให้เราได้นานขึ้นคือ การมองข้ามขั้นความพึงพอใจแบบชั่วครู่ชั่วยามไปสู่ความสุขที่แท้จริง ซึ่งวิธีที่เหมาะจะแตกต่างไป ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เช่น บางคนอาจตั้งใจไว้ว่าจะทำความดีวันละ 5 อย่างทุกวัน และทำเช่นนี้ตลอดไป ในขณะที่อีกคนแค่จดไดอารี่และขอบคุณสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของวันนั้นๆ แค่นี้ก็ทำให้สุขใจแล้ว


รวยกว่า สุขกว่า จริงหรือ

จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้ทำการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างรายได้กับความสุขของคนในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และประเทศในทวีปยุโรป พบว่า มีความสัมพันธ์กันน้อยมาก ในบรรดาคนที่จน แม้ช่วงแรกจะมีความสุขต่ำแต่เมื่อถึงจุดเพียงพอที่มีเงินมากขึ้นเล็กน้อย เงิน 50,000 เหรียญก้อนที่สองก็ไม่ได้ทำให้มีความสุขเหมือนเงินก้อนแรกที่ได้รับ เมื่อเทียบความสุขระหว่างการขับรถสปอร์ตราคาแพง การเดินกลับบ้านหรือนั่งรถเมล์กลับ ชาาวสกอตแลนด์จำนวนมากบอกว่าแทบไม่มีอะไรต่างกัน

หลายคนในโลกนี้ รู้สึกแย่มาก และอิจฉากับความสำเร็จของคนที่รวยกว่า หรือมีฐานะดีกว่าตน จนทำให้ชีวิตไม่เป็นปกติ และหมดความสุขในใจอย่างสิ้นเชิง


มีเรื่องเล่าอยู่เรื่องหนึ่ง อาจารย์ท่านนี้ขีดเส้นตรงขึ้นมา 1 เส้น แล้วให้ลูกศิษย์ลองทำเส้นให้สั้นลงโดยไม่ต้องลบ บรรดาลูกศิษย์ทำไม่ได้ เพราะยึดติดกับการลบเส้นเพื่อทำให้เส้นสั้นลง อาจารย์จึงทำการขีดเส้นตรงอีกเส้นหนึ่งที่ยาวกว่าเส้นแรก


ยิ่งเราขีดเส้นที่สองยาวกว่าเส้นแรกมากแค่ไหน ก็จะทำให้เส้นตรงเส้นแรกนั้นดูสั้นลง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบเส้นแรกเลย เปรียบเหมือนคนที่เขาประสบความสำเร็จ เราก็ไม่จำเป็นต้องไปรู้สึกอิจฉาเร่าร้อน หรือหาทางทำลายความสำเร็จของเขาให้สั้นลงไป ในขณะเดียวกัน เราสามารถพัฒนาตัวเราเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเส้นตรงที่ลากยาวขึ้นไม่รู้จบแค่นี้ เส้นตรงของคนอื่นก็ดูสั้นลงไปโดยปริยาย และไม่จำเป็นต้องไปลบเส้นของคนอื่นออกเสียด้วยซ้ำ


ข้อมูลจาก คุณเพ็ญประภา วัฒนรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น