1/24/2554

ผ่าตัดลดอ้วน นวัตกรรมใหม่เพื่อการลดพุง



โรคอ้วน ถึงว่าเป็นภาวะที่อันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเรื้้อรังหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมัสผิดปกติในเส้นเลือด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และ.....อีกมากมาย ส่วนใหญ่แม้ว่าผู้ป่วยจะพยายามลดความอ้วนด้วยวิธีต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะการออกกำลังกาย ลดอาหาร ทานยาลดความอ้วน ก็มักจะไม่ประสบผลสำเร็จ จึงต้องมีเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้กับผู้ป่วยโรคอ้วน ซึ่งก็คือการผ่าตัดลดความอ้วน หรือ Bariatric Surgery ที่ใช้กับอย่างแพร่หลายมานานแล้วในต่างประเทศ

การผ่าตัดลดความอ้วน ไม่ใช่การจับคนอ้วนทุกคนมาผ่าตัด แต่มีหลักการว่า จะทำการผ่าตัดกับคนไขที่มีอายุ 18-60 ปี โดยมีข้อบ่งชี้ คือ ผู้ป่วยมีดัชนีมวลกายเข้าข่ายหรือไม่มีประวัติอ้วนมานานเกิน 5 ปี เคยมีประวัติล้มเหลวจากการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ทั้งจากสถาบันหรือคลินิกลดน้ำหนัก กินยาลดน้ำหนักแล้วไม่ได้ผล และต้องเป็นคนไข้ที่สามารถปฏิบัติและให้ความร่วมมือในการรักษาได้ เพราะการผ่าตัดทุกอย่างย่อมมีภาวะแทรกซ้อน ฉะนั้นผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างเคร่งครัด วิธีการผ่าตัดที่นิยมมีอยู่ 2 วิธี คือ
1. Roux-en-Y gastric bypass (RYGB) หรือ gastric bypass ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ทำกันมาก และประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยเป็นการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารส่วนต้น ให้แยกการติดต่อจากกระเพาะอาหารส่วนปลายอย่างเด็ดขาด โดยดึงเอาลำไส้เล็กขึ้นมาต่อกับกระเพาะอาหารส่วนต้น เพื่อให้อาหารจากกระเพาะส่วนต้นผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็ก ด้วยการอ้อมผ่าน (Bypass) กระเพาะอาหารส่วนปลาย ทำให้กระเปาะของกระเพาะใหม่มีขนาดเล็กลงจึงรับอาหารได้ไม่มาก ทำให้มีการดูดซึมอาหารและแคลอรีเข้าสู่ร่างกายลดลง
2. Adjustable gastric banding (AGB) หรือ gastric banding คือ การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร โดยใช้ที่รัดกระเพาะที่ปรับเปลี่ยนขนาดกระเพาะได้ตามต้องการ ขึ้นตอนการผ่าตัดจะใช้เวลาตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยว่าอ้วนมากหรือน้อย โดยต้องนอนโรงพยาบาลประมาณ 3-4 วันก่อนจะกลับบ้านได้ ที่สำคัญผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องมีการเปลี่ยนวิถีชีวิตรวมถึงต้องควบคุมการรับประทานอาหาร เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว การผ่าตัดเพื่อลดความอ้วนก็จะไม่เกิดผลอะไรเลย
ข้อมูลจาก HealthToday

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น